สวัสดีค่ะ ห่างหายจากการเขียนบทความไปนานเลย วันนี้มีเคสน่าสนใจและทุกคนน่าจะเคยชิมลางประสบการณ์แบบนี้มาบ้าง หนักบ้าง เบาบ้าง แล้วแต่เคสๆไป ป๊อกจึงเลือกหยิบเรื่องนี้มาเขียนไว้เป็นเคสวิทยาทาน..
ป๊อกขอย้อนบทความ EP.17 ที่ติดค้างไว้ เรื่องคุณเมย์ ซึ่งบทความนี้มาแรงแซงโค้งติดอันดับหนึ่ง Popular post ไปแล้ว ในหัวข้อที่เน้นไว้ว่า “มึงทำกับเขาไว้มากๆ ระวังสิ่งเหล่านี้จะตกไปถึงลูกสาวมึงนะเว้ย ” โดยปกติแล้ว แต่ละเคสที่เข้ามาปรึกษา ส่วนใหญ่ที่ถูกคนรักทำร้าย หักหลัง อกหัก ส่วนใหญ่ 90% ล้วนเคยมีวีรกรรม เคยทำร้ายจิตใจคนรักคนก่อนๆมาเหมือนกัน แต่จะมีอีก 10% ที่ตลอดชีวิตเป็นคนดีมาตลอด ไม่เคยนอกใจ หรือทำร้ายจิตใจใครเลย ทำไมตลอดชีวิตเจอแต่คนรักที่นอกใจ และทำร้ายจิตใจอยู่ตลอด พอได้คุยกับคุณเมย์ลึกๆแล้ว คุณเมย์เล่าให้ฟังว่า คุณพ่อคุณเมย์เจ้าชู้มากๆ ทำร้ายจิตใจผู้หญิงมามาก และมีเมียน้อย มีน้องต่างแม่ก็หลายคน สิ่งนี้อาจจะเป็นสิ่งที่ตกทอดมาเป็นมรดกจากพ่อถึงลูกได้ เพราะเราอาศัยเขาเพื่อเกิดมาเป็นคน เราก็มีสิทธิ์ในการแบ่งเบากรรมจากเขามา เหล่านี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะคะ ให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณหาความจริงด้วยตัวเองอีกที เชื่อเสมอว่า ทุกๆความทุกข์ที่เกิดกับเรา ไม่มีเหตุว่าบังเอิญเกิด ทุกสิ่งล้วนแต่เกิดจากเหตุที่เราเคยสร้าง แต่การสืบสาวราวเรื่องไปก็ใช่เรื่อง สิ่งที่ควรทำในวันนี้คือ โฟกัสปัจจุบัน สะสม สร้างความดี เพื่อจะได้เจือจางในความไม่ดีลงได้บ้าง เชื่อเสมอนะคะว่า ความดีที่เราสะสมไว้จนมากพอ มันจะมีพลังในการเอาชนะความไม่ดีได้ …
กลับมาที่ EP.18 ของเราค่ะ เคสนี้เป็นเคสของวันนี้เลย สดๆร้อนๆ ป๊อกได้ขออนุญาตน้องเพื่อนำมาเขียนเล่าเรื่องราวเป็นเคสวิทยาทานให้กับผู้อ่านแล้ว ในหัวข้อ ” ทุกข์จนซึมเศร้า เพราะเราเลือกเป็น “ที่ปรึกษา” และกลายเป็น “หมา” ตอนเขาดีกัน..”
น้องขวัญสาววัย 28 ปี ขวัญค่อนข้างมีฐานะทางการเงินที่ดี ทางบ้าน Support ดี ปัจจุบันไม่ได้ทำงานประจำ อยู่ห้องเฉยๆ ว่างๆเบื่อๆ ก็จะออกไปตีกอล์ฟ ฟิตเนส ชอปปิ้ง อาศัยอยู่คอนโดคนเดียว ขวัญมีแฟนวัย 35 แต่ทั้งคู่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ก็เจอกันเรื่อยๆ
ขวัญมีเพื่อนสนิทชื่อโฟร์ โฟร์มีแฟนเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้วและพักอยู่ด้วยกันในคอนโดที่เดียวกับขวัญ ซึ่งโฟร์ได้มีโอกาสเข้าสังคมกับขวัญและแฟนของขวัญ จึงทำให้โฟร์ได้รู้จักกับคนชื่อพี ซึ่งพีเป็นเพื่อสนิทกับแฟนของขวัญ และแอบคบกับคนชื่อพีอย่างลับๆ ซึ่งขวัญเองก็รู้ แต่ช่วงแรกๆไม่ได้เข้าไปยุ่งชีวิตของเขามากนัก
โฟร์และพีคบกันมาได้ปีกว่าๆ ในขณะที่โฟร์เองก็มีแฟนอยู่ด้วย โดยการใช้วิธีสลับรางต่างๆนาๆ เช่น อยู่คอนโดกับพี่สาว แต่จริงๆโฟร์อยู่กับแฟน เป็นต้น จนทั้งคู่มีเรื่องทะเลาะกัน โฟร์เลยขอเลิกกับพีและหายเงียบไป นานเกือบครึ่งปี ในระหว่างที่โฟร์กับพีเลิกกัน พีและแฟนของขวัญและเพื่อนๆ ต่างก็สงสัยว่าทำไมโฟร์ถึงเลิกกะทันหัน หายไปดื้อๆ แล้วทุกคนก็เล็งมาที่ขวัญ เพื่ออยากให้เล่าถึงความจริงที่ขวัญรู้
ขวัญตัดสินใจเล่าเพราะคิดว่ายังไงทั้งคู่ก็เลิกกันแล้ว เลยเล่าความจริงทั้งหมดเกี่ยวกับโฟร์ให้พีฟัง ในเรื่องของการคบซ้อน และวีรกรรมสลับรางของโฟร์ ทีท่าของพีในตอนนั้นเหมือนคนที่ยังยอมรับความจริงไม่ได้ และยังไม่เทใจเชื่อขวัญ เหมือนยังมองว่าขวัญพูดเรื่องไม่จริง
หลังจากนั้นไม่นาน พีและโฟร์โคจรมาคบกันอีกครั้ง โดยโฟร์ได้เลิกกับแฟนเก่าเรียบร้อย โดยการกลับมาคบกันครั้งนี้ ขวัญรู้สึกได้ว่าพีและโฟร์พูดถึงเขาในด้านไม่ดี และมีทีท่าเปลี่ยนไปในด้านความสัมพันธ์กับตน เหมือนอารมณ์ตอนนี้ขวัญกำลังถูกเสกให้เป็น “หมา” เพราะเพื่อนบอกว่า กูกลับมาดีกันแล้ว (ประโยคฮิตๆที่เราคุ้นชินกันดี)
สิ่งที่ทั้งคู่ทำกับขวัญสะสมมาตั้งแต่เรื่องเล็กๆน้อยๆ ทั้งในด้านสายตาและคำพูด มีเหตุการณ์ที่ ทุกคนไปเล่นน้ำที่สระ ขวัญและเพื่อนๆแค่นึกสนุกอยากแกล้งโฟร์ เพื่อผลักลงน้ำ แบบไม่ได้มีเจตนาไม่ดี แต่พีกลับอารมณ์โมโหขึ้น และพุ่งมาเหมือนจะทำร้ายขวัญ เหมือนโกรธมานาน ซึ่งเพื่อนๆต่างก็บอกว่า “ทำไมไม่โกรธพวกกูด้วย พวกกูก็สมรู้ ทำไมโฟกัสไปที่ขวัญ” นั่นเป็นเหตุการณ์ภาพจำที่ขวัญเริ่มเกลียดพีมากขึ้น…
ฟังจากน้ำเสียงการเล่า ขวัญเหมือนสะสมความทุกข์นี้มานาน แบกความทุกข์ในเรื่องนี้จนเล่าไปด้วย สะอื้นไปด้วย ปกติป๊อกเจอแต่เคสร้องให้เพราะแฟน เพราะครอบครัว เคสนี้ร้องให้เพราะเพื่อนที่ไม่เข้าใจเจตนาของเรา และอาจจะเอาเราไปพูดต่างๆนาๆ จนบางทีขวัญก็มีหงุดหงิดกับแฟน เพราะอยากให้เขาไม่ไปเข้าสังคมกับคนพวกนี้ด้วย “ในเมื่อขวัญเกลียดคุณก็ต้องเกลียดด้วย เพราะเขาทำกับขวัญขนาดนี้ ” ขวัญบอกว่าอึดอัดกับความรู้สึกนี้มาเกือบปีแล้ว ปัจจุบันก็ยังเป็นไม้เบื่อไม้เมากับโฟร์และพี เวลาจะเข้าสังคมที่จะต้องไปเจอ ขวัญจะรู้สึกหงุดหงิดทุกครั้ง และสิ่งที่ป๊อกได้ตกตะกอนช่วยเหลือจากเหตุการณ์ของขวัญ สรุปย่อมาให้อ่านคร่าวๆ เผื่อจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านนะคะ
1. สิ่งที่เราทำไปมันไม่ถึงกับผิด และก็ไม่ถึงกับถูก มันอยู่กึ่งๆ แต่เราได้บทเรียนว่า ความจริงบางอย่างถ้ามันไม่ได้ทำให้ชีวิตเราดีขึ้น ไม่เกิดประโยชน์กับเรา เราไม่ควรพูดซะยังจะดีกว่า ให้เขาไปหาความจริงของเขาเอง.. แต่ถึงพูดไปก็ไม่ใช่ว่าจะแย่ ถ้าเจตนาเราต้องการจะทำให้พีไม่ต้องสงสัย และไม่ต้องวิ่งหาคำตอบ โดยเราไม่มีเจตนาจะเติมฟืนเติมไฟ แต่เขารับเจตนาเราเป็นเรื่องไม่ดีไป เราก็หมดหนทางจะอธิบาย ก็คงต้องรอเวลา ให้เป็นตัวคลี่คลาย แต่เราเองที่ต้องอดทนกับความอึดอัดนี้… ความดีและความจริง มันเหมือนเพชร อาจจะโดนโคลนหรือสนิมเกาะบ้างในวันนี้ แต่สักวันเพชรจะเฉิดฉายของมันเอง…วันนั้นเพชรจะชัดเจน
2. วุฒิภาวะคนที่โตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี เขาจะไม่บังคับใจใครให้ทำตามใจตัวเอง ไม่ว่าพ่อแม่ลูก หรือพี่กับน้อง หรือสามีภรรยา เรามีหน้าที่เป็นที่ปรึกษาแนะนำ รับฟัง เสนอความคิดของเราได้ แต่สุดท้ายเราไม่ควรบังคับใครให้ชอบหรือไม่ชอบตามเรา ทุกคนมีสิทธิ์ในการตัดสินใจเลือกได้ เพราะถ้าเราบังคับให้เขาเลือก ถ้าวันหนึ่งสิ่งที่เขาเลือกไม่ดี เขาจะกลับมาโทษเราได้ ให้อิสระในการตัดสินใจกับแฟน แต่ไม่ต้องไปงอแง หรือบังคับเขา นั่นเพื่อนสนิทที่เขาคบมานาน สิ่งที่เราควรโฟกัสคือตัวเรา ไม่ใช่ใครๆ..
3. ให้เราฝึกเข้าใจกฏของโลกนี้ไว้เลยว่า คำชม คำนินทา เป็นของคู่กัน มีคนรัก มีคนเกลียด เราห้ามใครไม่ได้ แล้วเราก็ไม่มีโอกาสที่จะจัดโต๊ะแถลงข่าวอธิบายอะไรๆได้ มันสุดวิสัยที่จะอธิบาย เราควรฝึกปล่อยวาง ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ เอาเวลาที่เรากอดความทุกข์นั้น มาเปลี่ยนให้เราดีขึ้น เก่งขึ้นดีกว่า เพราะตอนนี้คนเหล่านั้นยิ่งจะสะใจที่มีอิทธิพลทำให้ชีวิตเราเดินถอยหลัง เราควรดึงพลังบวกตัวเองขึ้นมา ฟื้นฟูสภาพจิตใจ ร่างกาย กลับมาสดใส โฟกัสคนที่เห็นค่าและดีกับเรา เอาเวลาที่จมทุกข์มาโฟกัสเป้าหมาย อนาคตของเราดีกว่า ทำให้คนเหล่านั้นอิจฉาดีกว่าน่ะ ต่อไปหากจะต้องมีโอกาสเจอกัน แรกๆฝึกมองเขาเป็นอากาศไปก่อนก็ได้ และแทนที่จะหงุดหงิดที่จะได้ไปเจอ เปลี่ยนเป็นหาชุดใหม่ๆ ทำให้ตัวเองดูสวย ปังๆ ในการไปเจอเราจะได้สวยสดใส ไม่ใช่ดราม่าและขี้หงุดหงิด ที่จะทำให้คนรอบตัวรำคาญซะเปล่าๆ
ประมาณนี้ล่ะค่ะ คุณผู้โชมมมม 5555 เอาพอหอมปากหอมคอนะคะ แต่ในบทความนี้ สิ่งที่อยากเน้นจริงๆคือ ขอแค่ใจเราเจตนาดี คิดดี พูดความจริงไม่ตีไข่ ใส่ฟืน ป๊อกว่าดีมากๆแล้ว แต่ถ้าคนรับ รับสารผิดเพี้ยนไป ก็ทำใจยอมรับค่ะ แต่ให้บอกตัวเองว่า ความจริงและความดี เหมือนเพชร วันนี้อาจจะโดนโคลนตมหรือสนิมทับถมอยู่บ้าง ทำให้ไม่ชัดว่าเป็นเพชร แต่สักวัน เพชรจะฉายความเป็นเพชรออกมาเอง…
ขอบคุณนะคะ ที่อ่านจนถึงบรรทัดนี้ ชื่อที่ใช้ในบทความนี้เป็นนามสมมุติทั้งหมด และได้รับอนุญาตจากเจ้าของเรื่องแล้ว..
ป๊อก
Date: 6 / 08 / 2019