ในวัย 13-16 ปี จะมีน้องๆที่มีปัญหาในเรื่องครอบครัว เพื่อน และการถูก Bully กันจำนวนมาก ทั้งในเรื่องหน้าตา เพศ ผิวพรรณ ทรวดทรง (น้องผู้หญิงบางคนที่เป็นสาวเกินวัย) และการไม่เข้าใจกันระหว่างคนในครอบครัว อันเกิดจากปัจจัยต่างๆ เช่น การสื่อสาร การใช้อารมณ์ และความไม่เข้าใจของตัวน้องๆเอง และคนในครอบครัว
ในบทความนี้จะแชร์แนวคิดการรับมือ เมื่อรู้ตัวว่าตัวเองเป็นเกย์ หรือเป็นเพศทางเลือก จึงขออนุญาตนำเคสวิทยาทานจากน้องต้น (นามสมมุติ) มาเป็นเคสตัวอย่าง
น้องต้นวัย 14 ปี เครียด ซึมเศร้า อยู่กับการเริ่มรู้ตัวว่าตัวเองเป็นเกย์มานาน 2 ปีแล้ว และป๊อกคือคนแรกในชีวิตเขา ที่เขาเลือกระบาย เล่าความจริงให้ฟัง เพราะกับคนอื่น เขายังทำใจยอมรับ และพูดความจริงยังไม่ได้ สิ่งที่ต้นแบกความกดดันความเครียดไว้ คือ
1. ครอบครัวค่อนข้างฝากความหวังไว้มาก เพราะในครอบครัวมีแต่ผู้หญิง ลึกๆคนเป็นพ่อแม่ย่อมรู้ในใจหรือสงสัยในตัวลูกอยู่แล้ว แต่แค่ยังไม่แน่ใจ และมักจะล้อลูกบ่อยๆ เช่น มีแฟนหรือยัง เป็นผู้ชาย หรือผู้หญิงล่ะ เป็นตุ๊ดใช่ไหมเราหน่ะ คำพูดเหล่านี้จะไม่เป็นผลกับตุ๊ดสาว ตุ๊ดแก่ เพราะเขาโตและเข้าใจโลกกว้างแล้ว แต่ในวัยเด็กถึงเขาจะรู้ว่าเขาเป็นอะไร แต่ในใจมันยังรับไม่ได้ ยังโกรธ และน้อยใจที่คนที่เขารักที่สุด กลับเป็นคนที่พูดทำร้ายจิตใจเรา..
2. ถูก Bully จากกลุ่มเพื่อน เพราะในช่วง 2 ปีก่อน ต้นดูคลิปหนังรักแบบชายรักชาย ในโทรศัพย์ แต่เพื่อนดันเล่นสนุก อยากแกล้ง และแย่งโทรศัพย์ไปเล่น จนพบว่าต้นดูหนังชายรักชาย ต้นจึงถูกล้อเลียนว่าเป็นตุ๊ด เป็นเกย์ ถูกเพื่อนชายแต๊ะอั่งจับนั่นนี่เล่นสนุกตามประสาเด็ก จนรู้สึกอาย ต้นเครียดมาตลอด จนบางครั้งก็รู้สึกโกรธเกลียดตัวเอง โทษตัวเองว่าเราแปลกประหลาดที่เป็นแบบนี้
แนวทางในการปรับแนวคิด สร้างภูมิคุ้มกัน เมื่อเราต้องเผชิญกับปัญหาคล้ายๆเรื่องราวของต้น ลองวิธีเหล่านี้ดูนะคะ
Step 0 ปรับแนวคิด คือ ทำความเข้าใจใหม่ว่า การเป็นเกย์ เป็นทอม เป็นเพศทางเลือกใดๆก็ตาม ไม่ได้แปลก ประหลาด ผิดธรรมชาติใดๆ เป็นเรื่องธรรมชาติ เหมือนกับคนที่เกิดมาเป็นหญิง เป็นชาย เพียงแต่เพศทางเลือกเหล่านี้ เป็นที่รู้จักยังไม่แพร่หลาย กลุ่มเด็ก กลุ่มผู้ใหญ่บางกลุ่ม จึงยังไม่เข้าใจมากนัก ไม่ต้องรู้สึกผิด และโทษตัวเอง การเป็นมนุษย์ไม่ได้วัดสูงต่ำที่เพศ ผิวพรรณ สวยหล่อ เขาวัดกันที่ความดี ทัศนคติ ความกตัญญู ศีลธรรม การสร้างคุณค่าให้ตัวเองและคนอื่น ชายจริง หญิงแท้ หรือเพศทางเลือก มีสิทธิ์ดีเลวได้ ไม่ต่างกัน อย่าโฟกัสที่ว่าเป็นเพศอะไร ให้โฟกัสว่า เราจะดีได้ยังไง หน้าที่ และ เป้าหมายของเราคืออะไร
Step 1 เกราะป้องกันเมื่อถูก Bully เราไม่สามารถสั่งให้ใครพูดดีๆกับเราได้ เราไม่มีเวทมนต์เปลี่ยนใครได้ สิ่งที่เราทำได้ คือรู้ทันอารมณ์ความคิดตัวเอง เด็กๆหรือกลุ่มคนที่ Bully เรา ตอนนี้เขาทำไปเพราะคึกคะนอง รู้สึกอยากสนุกบนความเจ็บของคนอื่น เมื่อเขาโตขึ้น จะมีเหตุการณ์สอนให้ เขารู้สึกละลาย ต่อการกระทำของเขาในวันนี้ และเขาจะรู้สึกผิดเอง ไม่ต้องไปต่อล้อ ชกต่อยอะไรกับเขา แต่สิ่งที่เราควรทำเมื่อเจอคนที่ Bully คือ แสดงออกด้วยสายตา สีหน้า ให้เขารู้ว่าเราไม่ชอบ แบบนิ่งๆ ทำให้เขารู้ว่าเราไม่พอใจ เพราะถ้ายิ่งเราสนุกหัวเราะไปกับเขา เขายิ่งได้ใจและแกล้งบ่อยๆ หลีกเลี่ยงการเล่น พูดคุยกับคนเหล่านี้ไปสักพักให้เขารู้ว่าเราไม่สนุกด้วย มองหาคนที่ให้เกียรติ พูดจาดีกับเรา เลือกคบกลุ่มคนเหล่านั้น
Step 2 สร้างมูลค่าให้กับตัวเอง หมายถึง เราต้องมีจุดแข็ง ความเก่ง เช่น เรียนให้เก่ง ตั้งใจเรียน หรือเก่งกีฬา เก่งกิจกรรม ทำงานเพื่อกลุ่มคน หรือโรงเรียน เป็นที่ยอมรับของครูและเพื่อน ซึ่งต้นเองก็ค่อนข้างมาถูกทาง ต้นสอบได้ที่ 1,2 ของห้องตลอด เพื่อนๆจะถามและขอความช่วยเหลือเรื่องเรียนบ่อยๆ ข้อนี้จะทำให้เราได้เปรียบมากขึ้น ที่จะทำให้เพื่อนๆ เกรงใจเรา
Step 3 สร้างการยอมรับจากครอบครัว ข้อนี้น้องๆไม่ควรใจร้อนนะคะ ข้อนี้ไม่สามารถทำได้ด้วยระยะเวลาสั้นๆ ต้องพิสูจน์ตัวเองนานหลายปี เหมือนค่อยๆหยอดความประทับใจ ความดี กตัญญู ตั้งใจเรียน และมีงานทำที่ดี มีเงิน เลี้ยงดูครอบครัวได้ มีทัศนคติที่ดี มีความเป็นผู้ใหญ่ ไม่ยุ่งความมัวเมา สิ่งเสพติด เมื่อน้องๆพิสูจน์ให้ครอบครัวเห็นว่า เราเอาตัวรอดได้ ดูแลเขาได้ เป็นที่ยอมรับของคนทั่วไปได้ ถึงตอนนั้น เราอยากจะทำอะไร อยากจะมีชีวิตแบบไหน เชื่อว่าเขาคงไ่ม่ห่วง และให้อำนาจการตัดสินใจกับเราอยู่แล้ว แต่หน้าที่ต้องมาก่อน ก่อนที่เราจะเรียกร้องให้เขายอมรับ เราต้องพิสูจน์ตัวเองก่อน เราไม่ได้ทำเพื่อเขาอย่างเดียว เราทำเพื่อตัวเองด้วย
และสุดท้าย แรงผลักที่ดีที่สุด คือ คำดูถูกของคนนี่แหละ น้องๆไม่ต้องไปเสียเวลาร้องให้ เครียด บั่นทอนกับคำดูถูกเหล่านั้นมาก เปลี่ยนคำดูถูกเหล่านั้น กลับมาเป็นพลังว่า “ คอยดูฉันละกัน.. ฉันจะทำให้เห็นว่า เพศไม่ได้วัดว่าใครดีไม่ดี ใครน่ารังเกียจหรือไม่น่ารังเกียจ แต่ความเป็นมนุษย์วัดกันที่ทัศนคติ และการเป็นคนดี ”
ขอบคุณที่อ่านบทความยืดยาวมาจนถึงบรรทัดสุดท้ายนะคะ
ป๊อก
Date: 2 / 12 / 2019