เมื่อวานเพื่อนสายด่วนมาขอคำปรึกษาปัญหาชีวิตคู่ และเรื่องราวค่อนข้างเป็นประโยชน์ ถ้าเราเข้าใจ Trick แล้ว สามารถปรับใช้ได้กับหลายๆเหตุการณ์เลย
มด (ชื่อสมมุติ) นางเป็นคนนิสัยสไตล์คุณหนู เป็นคนปากไว อารมณ์ร้อน ตาดุ ถ้าโกรธไม่พอใจ สีหน้าท่าทางจะค่อนข้างชัด อีกด้านนางก็เป็นคนจิตใจดี หัวเราะง่าย คู่นี้คบกันมา 9 เดือน พี่บอล (ชื่อสมมุติ) แฟนนาง มีความเป็นผู้ใหญ่ สุขุม ดูเป็นคนใจเย็น จิตใจดี แน่นอนว่าการใช้ชีวิตคู่ นอกจากสุขสม ก็จะมีทะเลาะบ้าง ตามประสาลิ้นกับฟัน..จนมาเป็นเหตุการณ์นี้ ที่นางเลือกที่จะโทรมาปรึกษา..
ทั้งคู่อยู่คอนโดด้วยกัน จะออกไปข้างนอก พอออกจากห้องล๊อคประตูเรียบร้อย ทั้งคู่ก็รู้สึกตัวว่า ลืมกุญแจไว้ในห้อง อีกคนคิดว่าอีกคนถือออกมา มดเริ่มแสดงอาการไม่พอใจ ที่แฟนไม่รอบคอบ ทำให้เสียเวลา และยังต้องติดต่อนิติจ้างช่างมางัด เสียค่างัดอีก 300 ยิ่งทำให้นางหงุดหงิด เริ่มเปลี่ยนสีหน้า และบ่นแฟนต่างๆนาๆ พี่บอลยื่นเงินค่างัดให้ อารมณ์นางก็ยังไม่ลด สงครามคำพูดได้เริ่มขึ้น และลามถึงเรื่องเก่าๆในอดีตที่ถูกเก็บไว้ และลามถึงอนาคตที่วางแผนไปเที่ยว พี่บอลปฏิเสธที่จะไม่ไป และได้หายไปพักที่อื่น โดยทิ้งประโยคว่า “เราจะห่างกัน จนกว่าจะคิดได้”
ด้วยความที่มดมีอีโก้ที่สูงพอตัวอยู่แล้ว การง้อก่อนคงไม่ใช่เรื่องแน่ ต่างคนต่างเงียบไป 4 วัน ในช่วง 4 วันนั้น มดโทรปรึกษาเพื่อนมาแล้ว 2 คน ด้วยความรักเพื่อน เพื่อนทั้งสองพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เราดีกว่าในหลายๆด้าน โปรไฟล์ สังคม เราจะเหนื่อยและพยายามทำไม เราไม่จำเป็นต้องง้อ แน่นอนว่าใจมดยังไม่ได้หมดรัก แต่แค่อารมณ์และอีโก้ที่ยังพุ่ง คำตอบของเพื่อน จึงยังไม่เคลียร์ นางจึงโทรมาปรึกษา
“แก…ฉันจะพูดในสิ่งที่ถูกต้องนะ ฉันไม่เน้นให้แกถูกใจ แกจะเชื่อไม่เชื่อ หรือโกรธฉันก็ตาม…แกฟังแล้วกลับไปทบทวนดู เรื่องนี้เป็นเหมือนไฟปลายไม้ขีด แต่แกสุมฟาง สุมเชื้อเพลิงเพิ่มจนมันร้อนขนาดนี้….ตอนรู้ว่าทั้งคู่ลืมกุญแจ เป็นฉัน ฉันก็คงแอบหงุดหงิดในใจเหมือนกัน ความโกรธคงขึ้นเท่าปลายไม้ขีดเหมือนกัน แต่สิ่งที่ควรทำคือ ดับไฟปลายไม้ขีดนั้นจากข้างในใจเรา แล้วคิดซะว่า พี่บอลเองก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น และมันก็เกิดขึ้นแล้ว ปัญหาที่เกิดขึ้นก็ต้องแก้มัน เลือกที่จะหัวเราะ และให้อภัยกัน เรื่องนี้จะพลิกเป็นอีกเรื่องเลย พี่บอลจะรู้สึกรักแกมากขึ้นด้วยซ้ำ ที่เห็นว่าแฟนไม่ขี้หงุดหงิด เป็นการพลิกปัญหาเป็นคะแนนบวกให้กับความสัมพันธ์…”
“แต่ทางที่แกเลือกคือ อารมณ์แกนำสติ อารมณ์เลยกลายเป็นเชื้อเพลิงชั้นดี มาทำให้ไฟปลายไม้ขีดลุกมากขึ้น ทางนี้นอกจากเราจะต้องเสียเวลา เสียเงินให้ช่างอยู่แล้ว ที่สำคัญเรายังทำลายความรู้สึกคนรัก ใช้คำพูดเป็นอาวุธทำร้ายกัน ทั้งที่ความจริงแล้ว เรื่องนี้เล็กนิดเดียว ฉันดีใจนะ ที่พี่เขาทิ้งให้แกได้คิด และทำให้แกได้โทรมาคุยกันฉัน มันทำให้เราได้แง่คิดดีๆกับเรื่องนี้..เขาเป็นผู้ใหญ่กว่า และเขาไม่ได้ผิดขนาดนั้น ลดอัตตาตัวเองลง และง้อเขาจะดีกว่า…”
“เวลาทะเลาะกัน โฟกัสและเคลียร์เป็นเรื่องๆนะ เพราะถ้าดึงเรื่องเก่า เอาเรื่องอนาคตมาแย้ง พยายามเอาชนะกันด้วยอารมณ์ มีแต่เสีย ไม่มีได้เลย เคลียร์ให้จบเป็นเรื่องๆ สื่อสารกัน ให้อภัยกัน คนส่วนใหญ่ที่มีปัญหาเลิกรา ล้วนมาจากเรื่องเล็กๆที่สะสมไว้ จนรอวันระเบิดทั้งนั้น.. อาวุธที่เราควรสะสมคือสติ ที่ต้องฝึก สติเป็นเหมือนน้ำ ที่ทำให้เราดับไฟปลายไม้ขีดได้ทัน”
Trick นี้เราสามารถปรับใช้ได้หลายๆเหตุการณ์เลยนะคะ เช่น ป๊อกเคยทำงานเป็นลูกจ้าง มีหลายๆ Boss ที่เคยร่วมงาน แต่ที่ประทับใจสุดคือ Boss ที่ไม่โมโหร้าย ตอนเราทำผิด แต่เขาให้อภัย และเข้าใจว่าทุกคนผิดพลาดกันได้ แล้วช่วยกันหาทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน ให้กำลังใจกัน.. เรายิ่งประทับใจเขา และอยากทำงานให้เขา มีอะไรเราก็กล้าที่จะคุยกับเขาตรงๆ
ตอนนี้มดกับพี่บอลกลับมาคืนดีกันเหมือนเดิมแล้ว มดคิดวนๆจับโทรศัพท์ จับวาง จับวาง กว่าจะตัดสินใจโทรง้อ..ครั้งนี้ง้อสำเร็จเพราะแต้มความรักยังมีอยู่ แต่ถ้าเราหมั่นเติมแต้มลบบ่อยๆ สักวันอาจจะง้อไม่สำเร็จแบบนี้ เพราะงั้นหมั่นรักษาความสัมพันธ์โดยมีสติเสมอว่า เรื่องเล็กควรจะกลายเป็นไม่มีเรื่อง เรื่องใหญ่ควรกลายเป็นเรื่องเล็ก สำหรับคู่รักที่ไม่เอาชนะและรักกันมากพอ และอย่าลืมสังเกตตัวเองนะคะ ว่าไฟปลายไม้ขีดเกิดขึ้นข้างในใจเราตอนไหน…
หวังว่าเรื่องนี้จะทำให้ได้ Trick นี้ไว้ใช้กันนะคะ สติคำเดียว มีคุณมหาศาลมาก อยู่แค่ว่าเราจะฝึกและประยุกต์ใช้อย่างไร
ขอบคุณที่อ่านจนถึงบรรทัดทุดท้าย
ขอบคุณค่ะ
ป๊อก
Date: 19/01/2020
Awesome post! Keep up the great work! :)
Great content! Super high-quality! Keep it up! :)
Comments are closed.