ต้นเรื่องมาจากน้องพั้นซ์ (นามสมมุติ) พั้นซ์เป็นผู้หญิง วัย 26 ปี ทำงานตำแหน่ง Account Executive หรือ AE ทำหน้าที่เป็นภาพลักษณ์องค์กร ขายงาน ประสานงานระหว่างลูกค้า และทีม ควบคู่กับ Project Manager พั้นซ์เป็นเด็กดี พูดเพราะ เข้ากับคนอื่นได้ง่าย ทัศนคติดี เท่าที่ป๊อกได้รู้จักและร่วมงาน เด็กคนนี้ทำงานดีมากค่ะ ละเอียด เก็บข้อมูลการประชุมเก่ง ช่วยป๊อกได้เยอะ ในเชิงเหมือนเลขาไปในตัว จดจำเวลาส่งงานเก่ง ลึกๆค่อนข้างปลื้มการทำงานของน้อง ที่ผ่านมานอกจากเรื่องงานแล้ว น้องจะมีเข้ามาปรึกษาบ้างในเรื่องความรัก การวางตัว อยู่บ้างเรื่อยๆ แต่ที่น่าหยิบมาเล่าคือเรื่องนี้ค่ะ..
ในเช้าวันจันทร์น้องได้แจ้งลาและบอกว่า คุณยายเสียชีวิต ขอลา 1 วัน ในกลุ่ม AE, PM เราก็แสดงความเสียใจ และรับทราบ จนมาเจอน้องอีกทีในเช้าวันอังคาร แรกพบกันในตอนเช้า เท่าที่ดูสีหน้าน้องดูไม่สดชื่น ในใจป๊อกคิดว่าคงยังเสียใจกับคุณยาย บวกกับเหนื่อยเรื่องงานศพละมัง ก็แวะทักทายปกติ
ป๊อก “ซาหวัดดีย์จ้าาา เป็นไงบ้าง ทำไมดูหน้าหง่อยๆ มีไรเปล่า? ” พั้นซ์ “เปล่าจ้า ปวดท้องนิดหน่อยค่ะ ” แต่เท่าที่สังเกตใบหน้า ป๊อกก็แอบคิดเองนะว่าคงไม่ใช่แค่นั้น น่าจะมีอะไรลึกกว่า แต่ไม่เป็นไร น้องเขาคงอยากที่จะบอกเหตุผล แค่นั้น เลยแยกย้ายทำงานกัน..
จนกระทั่งในตอนบ่ายหลังจากเราประชุมทีม Content กันเสร็จ ทุกคนเดินออกจากห้องประชุมหมดแล้ว เหลือป๊อกยังเก็บของ กับน้องพั้นซ์สองคน น้องเหมือนพยายามเข้าหา อยากคุยด้วย ด้วยเรื่องไม่สบายใจอะไรบางอย่าง พอเห็นอย่างนั้นป๊อกเลยวางของลง และพยายามตั้งใจรับฟังน้อง..
พั้นซ์ “พี่ป๊อกคะ พั้นซ์รู้สึกอึดอัด และเสียความรู้สึกกับการลางานไปงานศพยายเมื่อวันจันทร์มากๆเลย…. ”
ป๊อก “อะไรทำให้พั้นซ์รู้สึกแบบนั้น” พยายามใช้น้ำเสียง แววตา เข้าอกเข้าใจเขา และให้เขารู้สึกไว้ใจที่จะเล่าให้เราฟัง..
พั้นซ์ “การลาครั้งนี้ พั้นซ์ลาเพราะคุณยายที่พั้นซ์รักมากเสีย แต่พั้นซ์ก็ไม่ได้ทิ้งงานเลยนะคะ ในวันอาทิตย์ก่อนลาพั้นซ์เตรียมงาน พิมพ์ Checklist ให้ PM แต่ละคนไว้ ว่ามีอะไรต้องเสร็จในอาทิตย์นี้บ้าง และแจ้งไปในกลุ่ม AE,PM รวมถึง Stand by รับโทรศัพย์ลูกค้า หรือคุยกะทีมได้ตลอด..”
ป๊อก “อ่า ใช่ พี่เห็นในกลุ่ม พั้นซ์มีความรับผิดชอบคะแนน 10 / 10 จริงๆ พี่ยังแอบชื่นชมในใจอยู่เลย ”
พั้นซ์ “แต่ในขณะที่พั้นซ์โทรไปแจ้งลากับฝ่ายบุคคลว่าขอลา 1 วัน ไปงานศพคุณยาย ประโยคแรกที่เขาพูดกลับมาคือ จะต้องโดนหักเงินนะ เพราะเรายังไม่ผ่านโปร….”
ป๊อกเข้าใจน้องมากๆในเชิงยายเสีย และบวกกับการใส่ใจรับผิดชอบงานของน้องในช่วงที่หยุด… ป๊อกอึ้งกับประโยคแรกของฝ่ายบุคคล อึ้งในเชิงเหมือนมีคนที่กำลังมีแผลที่ขา แล้วมีใครสักคนรีบหยิบแอลกอฮอร์ มาราดที่แผล ใช่ค่ะ เขาหวังดี และตรงๆว่า แผลจะได้หายไวๆ แต่ฉันยังเจ็บกับแผลสดๆ ขอทำใจแปปหนึ่งได้ไหม ทำไมคนๆนั้นไม่เริ่มจากคำว่า เจ็บไหม.. เป็นยังไงบ้าง..
เรื่องเหล่านี้เราควรต้องเปิดคอร์สสอนการสื่อสารให้กับพนักงานทุกฝ่ายด้วยไหมคะ ? มันจำเป็นมากๆนะ ถึงจะดูเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ แต่มันไม่เล็กน้อยเลยในความเป็นจริง ถ้าให้แจงในมุมของพั้นซ์เป็นข้อๆหลักๆก็คือ
1. ในขณะที่พั้นซ์โทรมาลาไปงานศพยาย หลังจากทราบเรื่อง บุคคลที่ได้ฟังสาร สิ่งแรกที่ควรตอบกลับคือ พี่เสียใจด้วยนะคะ มันทรงพลังกว่ามาก และได้ใจคน ไม่ใช่ตะบี้ตะบัน พูดจุดที่เขาจะเสียผลประโยชน์ ซึ่งทำให้เขาช้ำกว่าเดิม ถึงแม้จะเป็นเพียงค่าจ้างเล็กน้อยในหนึ่งวัน แต่มันคือความรู้สึกนะคะ มันจะจำไปอีกนาน..
2. การบอกลาบริษัทไปแล้ว สิทธิ์การลา 1 วันเป็นของเรา ที่จะไม่ทำงานอะไรเลยก็ได้ เพราะโดนหักเงินอยู่แล้ว แต่น้องตั้งใจ รับผิดชอบ Stand by ทำงานระหว่างช่วยงานศพ (ป๊อกค่อนข้างอินกับเรื่องนี้นะ เพราะเคยโดนกับตัว แต่ตอนนั้นวุฒิภาวะและเครดิตตัวเองทำอะไรไม่ได้ แต่ครั้งนี้จะช่วยน้อง และช่วยบริษัทไปในตัวด้วย…) เพราะความตั้งใจ รับผิดชอบ เลยทำให้เกิดน้อยใจว่า ทำไมองค์กรไม่เห็นความสำคัญตรงนี้ แถมยังลงโทษซ้ำด้วยการหักเงิน…
ป๊อกตั้งใจฟัง และบอกน้องว่าพี่เข้าใจทุกอย่าง เพราะพี่ก็เคยเป็น แต่ตอนนั้น พี่เอาชนะกฏนี้ไม่ได้ เพราะมันคือกฏที่บริษัทเขาบอกว่าตั้งมาใช้กับทุกคน แต่พี่ว่าพี่จะไม่ทนแล้ว กฏบางอย่าง ความลำเอียงบางอย่าง ถ้ามันมีจังหวะต้องแหก เพื่อดึงใจคนที่ตั้งใจทำงานได้บ้าง มันก็คุ้มที่จะทำ ขอบคุณมากๆที่หนูมาแชร์ มาเล่าให้พี่ฟัง มันเป็นประโยชน์ของทุกๆฝ่าย และกับทั้งองค์กรด้วย พี่จะเอาเรื่องนี้ไปคุยกับบอส หนูสบายใจได้นะ พี่เข้าใจหัวอกหนูทุกอย่างที่เล่ามา.. ใบหน้าน้องดูผ่อนคลายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพียงแค่ได้ระบายออกมา.. แล้วเราก็แยกย้ายกันจากห้องประชุม..
ในตอนเช้าของวันถัดมาป๊อกขอคุยกับบอสเป็นการส่วนตัวถึงเรื่องนี้ เราคุยกันนานมากค่ะ ป๊อกขอสรุปเป็นข้อๆจุดที่เราสรุปและจะปรับแก้ ดังนี้
1. กล่าวเตือน เพื่อปรับให้ดีขึ้นสำหรับฝ่ายบุคคล ยิ่งเป็นฝ่ายบุคคล ยิ่งต้องใส่ใจ เข้าใจคนให้มากๆ คำพูดเล็กๆน้อยๆ การจัดกิจกรรม สร้างความปรองดอง การให้ใจพนักงาน ฝ่ายบุคคลควรจะเข้าใจมากกว่าใครเพื่อน..
2. บอสควรปรับกฏการหักเงินได้แล้ว ถ้าสาเหตุการลาคือ ลาเพราะความสูญเสียที่ไม่อยากให้มันเกิด เราควรเข้าใจ เห็นอกเห็นใจ หรือถ้าไม่หนักหนากว่าแรง ควรช่วยเหลือเขาด้วยอะไรเล็กๆน้อยๆบ้างก็ยังดี เป็นการแสดงความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกันในความสูญเสีย มันได้ใจคนกลับมามากๆ..
3. ถ้าบอสจะมองว่าเรื่องนี้คือการแหกกฏ หรือลำเอียง ป๊อกขอยืนยันว่าให้ลำเอียงและแหกกฏเถอะ เพื่อซื้อใจคนตั้งใจทำงาน คนที่รับผิดชอบงานดีๆแบบนี้ ดีกว่าทำลายความรู้สึกเขาวันนี้ เพื่อสะสมเป็นก้อนใหญ่ในอนาคต และจะมาฟูมฟายทีหลังว่า ไม่สามารถ Keep คนเก่งๆ ไว้ได้เลย ก็คงไม่แปลกเพราะสร้างเหตุไว้อย่างไร ผลมันก็จะออกมาเป็นอย่างนั้น เพียงแต่จะมองเห็นหรือเปล่าเท่านั้น…
หลังจากคุยกับบอสเสร็จ บอสบอกว่า พี่มองไม่เห็นจุดวิกฤตปรับเป็นโอกาสแบบนี้เลย มันเล็กๆน้อยๆ แต่มันทรงคุณค่าจริงๆ พี่ขอบคุณมากที่เป็นตัวกลางเชื่อมให้พี่มองเห็นอะไรๆชัดขึ้น หลังจากนั้นพี่เขาก็ทำเป็นกฏสำหรับพนักงานทุกคนตั้งแต่นั้นเลยค่ะ และมีส่งพวงหรีดไปแสดงความเสียใจที่งานศพด้วย เป็นการ PR ชื่อบริษัทไปในตัวด้วย อิอิ
ในโลกของความเป็นจริง ถ้าเราตั้งใจทำงาน ความรับผิดชอบดี สร้างเครดิตตัวเองไว้ดีแล้ว จะมีสิทธิพิเศษที่ควรจะได้รับแบบพิเศษๆกลับมาเสมอๆ เพราะงั้นให้ตั้งใจทำดี แบบไม่ต้องหวังผลก่อน สิ่งดีๆมาตามมาเองค่ะ..
จบสวยงามค่ะ น้องพั้นซ์มีส่งไลน์มาขอบคุณ และบอกปลื้มใจมากจริงๆค่ะพี่ป๊อก แค่นี้อีป๊อกก็ฟินไป 10 วันแล้วค่ะ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านในเชิงการนำไปปรับใช้นะคะ หากมีผลดีที่เกิดขึ้นกับบทความนี้ ป๊อกขอส่งถึงองค์กร และผู้ที่เกี่ยวข้องกับบทความนี้ ให้ได้รับผลดีนี้ และขอให้เจริญงอกงามยิ่งๆขึ้นไป
ขอบคุณค่ะ
ป๊อก
Date : 17/10/2018 Time: 11 : 11 AM.